ค้นหาบทความที่นี่

บทความทั้งหมด

[Espressif the Series] ปฐมบท ESP8266 vs ESP32

4 ปีที่ผ่านมา

โดย เจ้าของร้าน

Publish : 1 Febuary 2021

หากพูดถึงชิป IoT แล้ว ตระกูลที่เป็นที่นิยมมากก็เห็นจะเป็น ESP ที่เราคุ้นเคยกันดี และ ณ ขณะที่เขียนนี้ (11 มกราคม 2021) ก็มีชิปออกมาหลายตัวแล้ว แต่ละตัวเป็นแบบไหน เหมือนต่างกันอย่างไร วันนี้จะพาไปทำความรู้จักกันครับ

สำหรับชิปตระกูล ESP นั้น เป็นชิปที่พัฒนาโดยบริษัท Espressif จากสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นชิปแบบ System On Chip หรือเรียกย่อ ๆ ว่า SoC ซึ่งชิปแบบนี้ก็ตามชื่อเลยครับ คือ "ระบบอยู่บนชิป" ที่เราเห็นชิป 1 ตัวนั้น ภายในก็จะประกอบไปด้วย CPU, หน่วยความจำทั้งหลัก-รอง, Input-Output Port ที่พร้อมจะทำงานได้ทันทีด้วยชิปเพียงตัวเดียวเท่านั้น สำหรับชิป ESP นี้ก็จะมีฟังก์ชั่นต่าง ๆ อัดเข้าไปอย่าง WiFi และ Bluetooth และส่วนอื่น ๆ ตามสเปคนั่นเอง

note :
ในวันที่เขียนบทความนี้มีชิป SoC ตัวหนึ่งที่กำลังสร้างความฮือฮา คือ ชิป Apple Silicon M1 ยกตัวอย่างอันนี้ก็จะทำให้เข้าใจ SoC ง่ายขึ้นมาก ๆ ครับ จะเห็นได้ชัดเลยว่าคอมพิวเตอร์ดั้งเดิมเราต้องประกอบ CPU, RAM, หน่วยความจำ, การ์ดจอ เข้าไป แต่เมื่อใช้ชิปแบบ SoC แล้ว ทั้งหมดนี้ก็มารวมอยู่ในชิปตัวเดียวนั่นเอง ซึ่งจะส่งผลให้การเดินทางของสัญญาณสั้นลงมาก ๆ จากเดิมต้องออกจาก CPU ผ่านเมนบอร์ดไปที่ RAM ผ่านเมนบอร์ดไปเรียกข้อมูลที่ Harddisk แล้วย้อนกลับมาที่ RAM แต่เมื่อทุกอย่างอยู่ภายในชิปตัวเดียวแล้วก็มีเส้นทางแค่ภายในชิป เป็นผลให้ทำเครื่องทำงานเร็วขึ้นมากนั่นเองครับ

ในวันที่เขียนบทความนี้ ทาง Espressif ก็เปิดตัวชิปใหม่คือ ESP32-S3 ได้เพียงไม่กี่วัน หลายท่านอาจเริ่มงง โดยเฉพาะน้อง ๆ ที่เข้าวงการมาใหม่ หรือท่านที่ไม่ได้ตามข่าว ว่ามันยังไง ตัวเก่าเลิกผลิตมั๊ย หรือตัวไหนใช้แบบไหน เรามาดูกันดีกว่าครับ สำหรับท่านที่ขี้เกียจอ่าน สามารถอ่านอย่างสรุปได้ที่ย่อหน้าต่อไปนี้ และดูคุณสมบัติตามตารางข้างล่างนี้ประกอบได้เลย ส่วนรายละเอียดชิปต่าง ๆ ก็จะอยู่ด้านล่าง ใครอยากรู้แบบละเอียดก็อ่านต่อกันได้เลยครับ
ในตอนนี้เราจะแยกตาม Product Line ของทาง Espressif กันนะครับ ซึ่งตามที่ Espressif ได้แจ้งไว้มี Series และรหัสของชิปดังนี้
- ESP8266 Series
- ESP8266
- ESP8285
- ESP32 Series
- ESP32-DOWD-V3
- ESP32-DOWD
- ESP32-DOWDQ6-V3
- ESP32-DOWDQ6
- ESP32-D2WD
- ESP32-U4WDH
- ESP32-S0WD
- ESP32-PICO-V3
- ESP32-PICO-V3-02
- ESP32-PICO-D4
- ESP32-C Series
- ESP32-C3
- ESP32-C3F
- ESP32-S Series มี 2 Series ย่อยลงไปอีก
- ESP32-S2
- ESP32-S2
- ESP32-S2F
- ESP32-S3
- ESP32-S3

ฉะนั้นคำถามที่ว่า ESP32-S2 จะมาแทน ESP32 ธรรมดามั๊ย โดยส่วนตัวผู้เขียนคิดว่าไม่เลยครับ เนื่องจากบริษัทเขาออกแบบมาเป็นคนละตระกูลกัน เลือกใช้งานตามแต่คุณสมบัติที่ต้องการดีกว่า ซึ่งคุณสมบัติของแต่ละ Series แบบคร่าว ๆ มีดังนี้

	ESP8266 Series		ESP32 Series	ESP32-C Series	ESP32-S Series
	ESP8266	ESP8285	ESP32 Series	ESP32-C Series	ESP32-S2	ESP32-S3
CPU	Tensilica L106 32-bit (single-core)	Xtensa® L106 32-bit (single-core)	Xtensa 32-bit LX6 (Dual-Core)	RISC-V 32-bit (single-core)	Xtensa® LX7 32-bit (single-core)	Xtensa® LX7 32-bit (single-core)
Clock Speed (Typ./Max.)	80MHz 160MHz	80MHz 160MHz	160MHz 240MHz	160MHz	160MHz 240MHz	160MHz 240MHz
SRAM	160KB	160KB	520KB	400KB	320KB	512KB
PSRAM	X	X	0, 2MB *	X	X	X
ROM	X	X	448KB	384KB	128KB	384KB
Flash	X	1, 2MB *	0, 2, 4, 8MB *	0, 4MB *	0, 2, 4MB *	X
WiFi	802.11 b/g/n (HT20 - 2.4GHz)	802.11 b/g/n (HT20 - 2.4GHz)	802.11 b/g/n (HT20 - 2.4GHz)	802.11 b/g/n (HT20 - 2.4GHz)	802.11 b/g/n (HT20 - 2.4GHz)	802.11 b/g/n (HT40 - 2.4GHz)
Bluetooth	X	X	4.2 BLE	5.0 BLE	X	5.0 BLE
GPIO (Up to)	17	17	36	22	43	44
Peripherals	- ADC (10 bit) - SPI - I²S - I²C - UART - SDIO - RX/T	- ADC (10 bit) - SPI - I²S - I²C - UART - SDIO - RX/TX	- ADC (12 bit) - DAC - Temp. Sensor - Touch Senser - Hall Effect Sensor - SPI - I²S - I²C - UART - CAN - RX/TX - LED PWM - USB OTG	- ADC (12 bit) - DAC - SPI - I²S - I²C - UART - RX/TX	- ADC (12 bit) - DAC - Temp. Sensor - Touch Sensor - SPI - I²S - I²C - UART - RX/TX - LED PWM - USB OTG - DVP 8/16 camera interface - LCD interface	- ADC (12 bit) - DAC - Temp. Sensor - Touch Sensor - SPI - I²S - I²C - UART - RX/TX - LED PWM - USB OTG - DVP 8/16 camera interface - LCD interface

* ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย

จะเห็นว่าชิบแต่ละรุ่นก็มีข้อดีข้อเสีย การใช้งานที่แตกต่างกันไป อยู่ที่เราเลือกหยิบมาใช้งาน หากไม่ต้องการใช้บลูทูธ และใช้ I/O ไม่มากนักก็อาจใช้ ESP8266 หรือ ESP8285 ก็ได้ ซึ่งอาจมีคนแย้งว่าใช้ ESP32-S2 แทนก็ได้ ก็ถูกนะครับ เพียงแต่บางทีเราไม่ได้ต้องการประมวลผลเร็วขนาดนั้น (อย่าลืมว่ายิ่ง CPU ทำงานที่ Clock Speed เร็ว ๆ ก็ยิ่งใช้พลังงานมาก) และเรื่องราคา ผู้เขียนเช็คจากราคาขายส่งของ Espressif เฉพาะตัวชิปเปล่า ๆ นั้น ESP32-S2 อยู่ที่ $2.7 หรือราว ๆ 80 บาท ขณะที่ ESP8266 อยู่ที่ $1.7 หรือ 50 บาท และ ESP8285 อยู่ที่ $1.5 หรือ 45 บาทเท่านั้น ซึ่งในแง่ผู้ใช้ทั่วไปราคานี้มันดูไม่เยอะ 20-30 บาท แต่หากมุ่งมันพัฒนาผลิตสินค้าเพื่อธุรกิจ การจ่ายเงินซื้อสเปคเกินความจำเป็นก็ส่งผลทำให้ต้นทุนสูง เมื่อต้นทุนสูงก็ต้องตั้งราคาขายแพง เมื่อราคาขายแพงก็ขายออกยากนั่นเองครับ