"เกรด" ของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
4 ปีที่ผ่านมา
Publish : 19 March 2021
Image Source : Wkimedia
อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ที่ผู้ผลิตได้ผลิตออกมาจำหน่ายนั้น ถ้าเราสังเกตุดี ๆ แล้วจะมีเบอร์ย่อยแยกมาหลาย ๆ เบอร์ ซึ่งเจ้าเบอร์ย่อย ๆ นี้จะเป็นรหัสที่บอกชนิดของตัวถัง เกรด สถานที่ผลิต วันเดือนปีผลิต แล้วแต่จะกำหนด สำหรับในบทความนี้เราจะมาพูดถึง "เกรด" ของอุปกรณ์กันครับ
ถ้าพูดถึงเกรด หลายท่านคงคิดว่ามันต้องมี A B C และมันต้องดีต่างกันแน่นอน คือเรื่องนี้ถ้าจะพูดว่าไม่ต่างกันเลยก็คงจะโกหกครับ เรื่องประสิทธิภาพในแต่ละเกรดจะมีความแตกต่างกันอยู่แล้ว แต่ในเรื่องสเปค ขั้นตอนการทำงานนั้นถ้าเบอร์เดียวกันย่อมทำงานเหมือนกันทุกอย่าง โดยการแยกเกรดอุปกรณ์นี้เนื้อหาสำคัญก็จะแยกกันที่ "อุณหภูมิในการใช้งาน" (Operating Temperature) เป็นหลักซะมากกว่าครับ ซึ่งเรื่องนี้ในเว็บไซต์ของ Murata Electronics ผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่เจ้าหนึ่งได้ให้คำตอบใน FAQ เรื่อง automotive grade and consumer grade ว่า "The automotive grade products have high reliability and are available for a wide temperature range."
การแยกเกรดอุปกรณ์ตามอุณหภูมิในการใช้งาน
โดยทั่วไปที่เราจะเห็นผู้ผลิตอุปกรณ์อ้เล็กทรอนิกส์ จะผลิตอุปกรณ์จำพวกไอซี ตัวเก็บประจุ ทรานซิสเตอร์ และอุปกรณ์ต่าง ๆ แยกออกเป็นเกรดตามนี้ครับ
Commercial Grade - เกรดใช้งานเชิงพาณิชย์ทั่วไป อุปกรณ์สามารถทำงานในสภาพทั่ว ๆ ไปที่เราพอเจอกันตามบ้านเรือนบนโลกนี้ โดยสามารถทำงานได้ในอุณหภูมิสภาพแวดล้อมที่ 0 ถึง 70 °C เรียกว่าถ้ามนุษย์สามารถมีชีวิตได้ในพื้นที่ไหน อุปกรณ์เกรดนี้ก็สามารถทำงานได้
Industrial Grade - เกรดอุตสาหกรรม ก็ตามชื่อเลยครับ อุปกรณ์เกรดนี้ถูกออกแบบมาให้ใช้สำหรับเป็นชิ้นส่วนอุปกรณ์-เครื่องมือที่ใช้ในระดับอุตสาหกรรมซึ่งอยู่ในสภาพแวดล้อมที่โหดร้ายกว่าปกติทั่วไป อุปกรณ์ในกลุ่มนี้สามารถทำงานได้ในอุณหภูมิ -40 ถึง 85 °C
Automotive Grade - เกรดยานยนต์ เป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาสำหรับใช้ในยานยนต์ต่าง ๆ ซึ่งแน่นอนว่ามีความโหดร้ายเรื่องความร้อนมากกว่าที่ใช้ในอุตสาหกรรม ลองคิดตามนะครับ อุปกรณ์ในอุตสาหกรรมเราใช้ประจำที่ในโรงงาน จะออกแบบให้มีขนาดใหญ่รวมถึงการใส่พัดลมเพื่อระบายความร้อนยังไงก็ได้ แต่หากนำไปใส่ในรถยนต์ซึ่งมีพื้นที่จำกัด ต้องทำกล่องเล็ก ๆ ไปยัดใส่ไว้ในซอกแคบ ๆ และมีความร้อนสะสมจากเครื่องยนต์ จากการใช้งานกลางแจ้ง ของพวกนี้ก็จำเป็นต้องทนร้อนได้ดีกว่า โดยอุปกรณ์กลุ่มยานยนต์นี้จะทำงานได้ในอุณหภูมิ -40 ถึง 125 °C
ทั้งนี้ บางผู้ผลิตก็อาจมีเกรดยานยนต์อีกเกรดที่เรียกว่า AEC-Q100 Level 2 ซึ่งจะเป็นการทดสอบมาตรฐานของ Automotive Electronics Council (AEC)* อุปกรณ์กลุ่มนี้จะทำงานได้ในอุณหภูมิ -40 ถึง 105 °C
Military Grade - เกรดกองทัพ อุปกรณ์ในกลุ่มนี้จะถูกทดสอบด้วยมาตรฐาน United States Military Standard ของกองทัพสหรัฐ และสามารถทำงานได้ที่อุณหภูมิ -55 ถึง 125 °C
Aerospace Grade - เกรดอากาศยาน เป็นอุปกรณ์ที่มีคุณสมบัติต่าง ๆ ใกล้เคียงกับเกรดกองทัพ ผู้ผลิตส่วนใหญ่จะนำไปรวมกับเกรดกองทัพ โดยอาจเรียกว่า Military/Aerospace Grade
อุปกรณ์ส่วนใหญ่ที่เราจะหาซื้อได้นั้นจะเป็น Commercial Grade และ Industrial Grade (ปัจจุบันที่ผู้เขียนพบส่วนใหญ่จะเป็น Industrial Grade และเมื่อต้องทำงานต่าง ๆ ก็มักเลือกอุปกรณ์เกรดนี้มาใช้งาน) ในกลุ่ม Automotive Grade นั้นก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีนะครับ มีเช่นกันแต่ตัวเลือกจะน้อยลงเพราะเป็นตลาดเจาะจงมากกว่าสองกลุ่มแรก ส่วนใหญ่ผู้ผลิตจะเป็น Supplier มากกว่า คือผลิตตามแบบเฉพาะของผู้ผลิตรถแต่ละยี่ห้อแล้วส่งให้โดยตรง ไม่นำมาวางตามท้องตลาดทั่วไป แต่อุปกรณ์เกรดยานยนต์นี้ก็ยังพอมีให้ซื้อบ้างโดยเฉพาะพวกที่เกี่ยวกับไฟฟ้ากำลัง เช่น รีเลย์ ก็จะเห็นว่ามีอุปกรณ์เกรดนี้ให้เลือกเยอะพอสมควร
ส่วนของ Military Grade (รวมถึง Aerospace Grade) นั้น เนื่องจากมีคนซื้อน้อย ผู้แทนจำหน่ายส่วนใหญ่ก็จะไม่รับมาขายเพราะไม่คุ้มกับทุนที่จมไปนั่นเอง แต่ถ้าถามว่ามีให้ซื้อมั๊ย ก็จะตอบว่าพอหาได้ครับ โดยเฉพาะอุปกรณ์จำพวก Op-Amp จะเห็นเป็นเกรดทหารวางขายอยู่จำนวนหนึ่ง ซึ่งหากใครสู้ราคาไหวก็สามารถหาซื้อมาใช้งานได้ครับ โดยจะขอเทียบจากผู้แทนจำหน่ายรายใหญ่เจ้าหนึ่ง เทียบโดยใช้ Op-Amp เบอร์ LT1013 ซึ่งมีผลิตออกมาจำหน่าย 3 เกรด ดังตารางดังนี้
* ราคาแตกต่างกันตามชนิดของตัวถัง
จากตารางจะเห็นว่าอุปกรณ์เกรดทหารนั้นจะมีราคาที่สูงโดดขึ้นไปกว่าเกรดยานยนต์ถึง 20 เท่า เนื่องจากการที่จะทดสอบให้ผ่านมาตรฐานตามที่กำหนดทั้งเรื่องอุณหภูมิ ความสเถียรในการทำงาน การป้องกันไฟฟ้าสถิตย์และสนามไฟฟ้าแม่เหล็กนั้น จะต้องเริ่มจากการเลือกใช้วัสดุที่แตกต่างออกไป ซึ่งก็จะส่งผลให้ต้องมีกระบวนการผลิตแบบพิเศษขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนสูงและการผลิตทำได้จำนวนน้อย จึงมีราคาที่สูงมาก ๆ นั่นเองครับ
ต่อไปมาดูอีกตัวอย่าง เราจะรู้ได้รึเปล่าว่าอุปกรณ์แต่ละตัวนั้นผลิตเกรดไหนมาบ้าง อันนี้เราสามารถดูได้จาก Datasheet เลยครับ รูปด้านล่างนี้มาจาก Datasheet ของไอซีเบอร์ 555 ของบริษัท Diodes Incorporated ที่ระบุไว้ในหัวข้อ Operating Ambient Temperature เราก็จะรู้แล้วว่า เบอร์ NE555 เป็น Commercial Grade ส่วนเบอร์ SA555 เป็น Industrial Grade และสุดท้าย NA555 เป็น Automotive Grade (AEC-Q100 Level 2) นั่นเอง
Tips
Automotive Electronics Council (AEC) เป็นองค์กรที่ก่อตั้งขึ้นจากความร่วมมือของ Chrysler, Ford และ GM เพื่อจุดประสงค์ในการกำหนดมาตรฐานและคุณสมบัติต่าง ๆ ของอุปกรณ์ ปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 80 เจ้า ซึ่งมาตรฐานต่าง ๆ มีดังนี้
AEC-Q100 สำหรับทดสอบไอซีโดยเฉพาะ
AEC-Q101 สำหรับทดสอบอุปกรณ์สารกึ่งตัวนำ
AEC-Q200 สำหรับทดสอบอุปกรณ์จำพวก Passive Components
ซึ่งแต่ละการทดสอบก็จะมี Level ต่าง ๆ แยกลงไปดังนี้
Level 0 ทำงานได้ในอุณหภูมิ -40 ถึง 150 °C
Level 1 ทำงานได้ในอุณหภูมิ -40 ถึง 125 °C
Level 2 ทำงานได้ในอุณหภูมิ -40 ถึง 105 °C
Level 3 ทำงานได้ในอุณหภูมิ -40 ถึง 85 °C
Level 4 ทำงานได้ในอุณหภูมิ 0 ถึง 70 °C
Image Source : Wkimediaอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ที่ผู้ผลิตได้ผลิตออกมาจำหน่ายนั้น ถ้าเราสังเกตุดี ๆ แล้วจะมีเบอร์ย่อยแยกมาหลาย ๆ เบอร์ ซึ่งเจ้าเบอร์ย่อย ๆ นี้จะเป็นรหัสที่บอกชนิดของตัวถัง เกรด สถานที่ผลิต วันเดือนปีผลิต แล้วแต่จะกำหนด สำหรับในบทความนี้เราจะมาพูดถึง "เกรด" ของอุปกรณ์กันครับ
ถ้าพูดถึงเกรด หลายท่านคงคิดว่ามันต้องมี A B C และมันต้องดีต่างกันแน่นอน คือเรื่องนี้ถ้าจะพูดว่าไม่ต่างกันเลยก็คงจะโกหกครับ เรื่องประสิทธิภาพในแต่ละเกรดจะมีความแตกต่างกันอยู่แล้ว แต่ในเรื่องสเปค ขั้นตอนการทำงานนั้นถ้าเบอร์เดียวกันย่อมทำงานเหมือนกันทุกอย่าง โดยการแยกเกรดอุปกรณ์นี้เนื้อหาสำคัญก็จะแยกกันที่ "อุณหภูมิในการใช้งาน" (Operating Temperature) เป็นหลักซะมากกว่าครับ ซึ่งเรื่องนี้ในเว็บไซต์ของ Murata Electronics ผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่เจ้าหนึ่งได้ให้คำตอบใน FAQ เรื่อง automotive grade and consumer grade ว่า "The automotive grade products have high reliability and are available for a wide temperature range."
การแยกเกรดอุปกรณ์ตามอุณหภูมิในการใช้งาน
โดยทั่วไปที่เราจะเห็นผู้ผลิตอุปกรณ์อ้เล็กทรอนิกส์ จะผลิตอุปกรณ์จำพวกไอซี ตัวเก็บประจุ ทรานซิสเตอร์ และอุปกรณ์ต่าง ๆ แยกออกเป็นเกรดตามนี้ครับ
Commercial Grade - เกรดใช้งานเชิงพาณิชย์ทั่วไป อุปกรณ์สามารถทำงานในสภาพทั่ว ๆ ไปที่เราพอเจอกันตามบ้านเรือนบนโลกนี้ โดยสามารถทำงานได้ในอุณหภูมิสภาพแวดล้อมที่ 0 ถึง 70 °C เรียกว่าถ้ามนุษย์สามารถมีชีวิตได้ในพื้นที่ไหน อุปกรณ์เกรดนี้ก็สามารถทำงานได้
Industrial Grade - เกรดอุตสาหกรรม ก็ตามชื่อเลยครับ อุปกรณ์เกรดนี้ถูกออกแบบมาให้ใช้สำหรับเป็นชิ้นส่วนอุปกรณ์-เครื่องมือที่ใช้ในระดับอุตสาหกรรมซึ่งอยู่ในสภาพแวดล้อมที่โหดร้ายกว่าปกติทั่วไป อุปกรณ์ในกลุ่มนี้สามารถทำงานได้ในอุณหภูมิ -40 ถึง 85 °C
Automotive Grade - เกรดยานยนต์ เป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาสำหรับใช้ในยานยนต์ต่าง ๆ ซึ่งแน่นอนว่ามีความโหดร้ายเรื่องความร้อนมากกว่าที่ใช้ในอุตสาหกรรม ลองคิดตามนะครับ อุปกรณ์ในอุตสาหกรรมเราใช้ประจำที่ในโรงงาน จะออกแบบให้มีขนาดใหญ่รวมถึงการใส่พัดลมเพื่อระบายความร้อนยังไงก็ได้ แต่หากนำไปใส่ในรถยนต์ซึ่งมีพื้นที่จำกัด ต้องทำกล่องเล็ก ๆ ไปยัดใส่ไว้ในซอกแคบ ๆ และมีความร้อนสะสมจากเครื่องยนต์ จากการใช้งานกลางแจ้ง ของพวกนี้ก็จำเป็นต้องทนร้อนได้ดีกว่า โดยอุปกรณ์กลุ่มยานยนต์นี้จะทำงานได้ในอุณหภูมิ -40 ถึง 125 °C
ทั้งนี้ บางผู้ผลิตก็อาจมีเกรดยานยนต์อีกเกรดที่เรียกว่า AEC-Q100 Level 2 ซึ่งจะเป็นการทดสอบมาตรฐานของ Automotive Electronics Council (AEC)* อุปกรณ์กลุ่มนี้จะทำงานได้ในอุณหภูมิ -40 ถึง 105 °C
Military Grade - เกรดกองทัพ อุปกรณ์ในกลุ่มนี้จะถูกทดสอบด้วยมาตรฐาน United States Military Standard ของกองทัพสหรัฐ และสามารถทำงานได้ที่อุณหภูมิ -55 ถึง 125 °C
Aerospace Grade - เกรดอากาศยาน เป็นอุปกรณ์ที่มีคุณสมบัติต่าง ๆ ใกล้เคียงกับเกรดกองทัพ ผู้ผลิตส่วนใหญ่จะนำไปรวมกับเกรดกองทัพ โดยอาจเรียกว่า Military/Aerospace Grade
อุปกรณ์ส่วนใหญ่ที่เราจะหาซื้อได้นั้นจะเป็น Commercial Grade และ Industrial Grade (ปัจจุบันที่ผู้เขียนพบส่วนใหญ่จะเป็น Industrial Grade และเมื่อต้องทำงานต่าง ๆ ก็มักเลือกอุปกรณ์เกรดนี้มาใช้งาน) ในกลุ่ม Automotive Grade นั้นก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีนะครับ มีเช่นกันแต่ตัวเลือกจะน้อยลงเพราะเป็นตลาดเจาะจงมากกว่าสองกลุ่มแรก ส่วนใหญ่ผู้ผลิตจะเป็น Supplier มากกว่า คือผลิตตามแบบเฉพาะของผู้ผลิตรถแต่ละยี่ห้อแล้วส่งให้โดยตรง ไม่นำมาวางตามท้องตลาดทั่วไป แต่อุปกรณ์เกรดยานยนต์นี้ก็ยังพอมีให้ซื้อบ้างโดยเฉพาะพวกที่เกี่ยวกับไฟฟ้ากำลัง เช่น รีเลย์ ก็จะเห็นว่ามีอุปกรณ์เกรดนี้ให้เลือกเยอะพอสมควร
ส่วนของ Military Grade (รวมถึง Aerospace Grade) นั้น เนื่องจากมีคนซื้อน้อย ผู้แทนจำหน่ายส่วนใหญ่ก็จะไม่รับมาขายเพราะไม่คุ้มกับทุนที่จมไปนั่นเอง แต่ถ้าถามว่ามีให้ซื้อมั๊ย ก็จะตอบว่าพอหาได้ครับ โดยเฉพาะอุปกรณ์จำพวก Op-Amp จะเห็นเป็นเกรดทหารวางขายอยู่จำนวนหนึ่ง ซึ่งหากใครสู้ราคาไหวก็สามารถหาซื้อมาใช้งานได้ครับ โดยจะขอเทียบจากผู้แทนจำหน่ายรายใหญ่เจ้าหนึ่ง เทียบโดยใช้ Op-Amp เบอร์ LT1013 ซึ่งมีผลิตออกมาจำหน่าย 3 เกรด ดังตารางดังนี้
| เกรด | เบอร์ | ราคา/ตัว |
| Commercial (0 - 70 °C) |
LT1013C, LT1013D |
$1.5 - $3* |
| AEC-Q100 Level 2 (Automotive : -40 - 105 °C) |
LT1013DI | $1.4 - $4.4* |
| Military (-55 - 125 °C) |
LT1013M, LT1013AM, LT1013DM |
$33 - $50* |
จากตารางจะเห็นว่าอุปกรณ์เกรดทหารนั้นจะมีราคาที่สูงโดดขึ้นไปกว่าเกรดยานยนต์ถึง 20 เท่า เนื่องจากการที่จะทดสอบให้ผ่านมาตรฐานตามที่กำหนดทั้งเรื่องอุณหภูมิ ความสเถียรในการทำงาน การป้องกันไฟฟ้าสถิตย์และสนามไฟฟ้าแม่เหล็กนั้น จะต้องเริ่มจากการเลือกใช้วัสดุที่แตกต่างออกไป ซึ่งก็จะส่งผลให้ต้องมีกระบวนการผลิตแบบพิเศษขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนสูงและการผลิตทำได้จำนวนน้อย จึงมีราคาที่สูงมาก ๆ นั่นเองครับ
ต่อไปมาดูอีกตัวอย่าง เราจะรู้ได้รึเปล่าว่าอุปกรณ์แต่ละตัวนั้นผลิตเกรดไหนมาบ้าง อันนี้เราสามารถดูได้จาก Datasheet เลยครับ รูปด้านล่างนี้มาจาก Datasheet ของไอซีเบอร์ 555 ของบริษัท Diodes Incorporated ที่ระบุไว้ในหัวข้อ Operating Ambient Temperature เราก็จะรู้แล้วว่า เบอร์ NE555 เป็น Commercial Grade ส่วนเบอร์ SA555 เป็น Industrial Grade และสุดท้าย NA555 เป็น Automotive Grade (AEC-Q100 Level 2) นั่นเอง
Tips
Automotive Electronics Council (AEC) เป็นองค์กรที่ก่อตั้งขึ้นจากความร่วมมือของ Chrysler, Ford และ GM เพื่อจุดประสงค์ในการกำหนดมาตรฐานและคุณสมบัติต่าง ๆ ของอุปกรณ์ ปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 80 เจ้า ซึ่งมาตรฐานต่าง ๆ มีดังนี้
AEC-Q100 สำหรับทดสอบไอซีโดยเฉพาะ
AEC-Q101 สำหรับทดสอบอุปกรณ์สารกึ่งตัวนำ
AEC-Q200 สำหรับทดสอบอุปกรณ์จำพวก Passive Components
ซึ่งแต่ละการทดสอบก็จะมี Level ต่าง ๆ แยกลงไปดังนี้
Level 0 ทำงานได้ในอุณหภูมิ -40 ถึง 150 °C
Level 1 ทำงานได้ในอุณหภูมิ -40 ถึง 125 °C
Level 2 ทำงานได้ในอุณหภูมิ -40 ถึง 105 °C
Level 3 ทำงานได้ในอุณหภูมิ -40 ถึง 85 °C
Level 4 ทำงานได้ในอุณหภูมิ 0 ถึง 70 °C
เกรด, อิเล็กทรอนิกส์, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, เกรดอิเล็กทรอนิกส์, electronics, device, electronics device, grade, electronics grade
▲
▼
รายการสั่งซื้อของฉัน
รายการสั่งซื้อของฉัน
ข้อมูลร้านค้านี้
Fitrox Electronics
ไฟทร็อก อิเล็กทรอนิกส์ จำหน่ายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ บอร์ดไมโครคอนโทรลเลอร์ และอุปกรณ์สำหรับโปรเจคต่างๆ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ (หลัง มช.)
เบอร์โทร : 0897245633
อีเมล : fitrox.electronics@gmail.com
อีเมล : fitrox.electronics@gmail.com
ส่งข้อความติดต่อร้าน
เกี่ยวกับร้านค้านี้
ค้นหาสินค้าในร้านนี้
ค้นหาสินค้า
สินค้าที่ดูล่าสุด
บันทึกเป็นร้านโปรด
Join เป็นสมาชิกร้าน
แชร์หน้านี้
แชร์หน้านี้
↑
TOP เลื่อนขึ้นบนสุด
TOP เลื่อนขึ้นบนสุด
สินค้าในตะกร้า ({{total_num}} รายการ)
ขออภัย ขณะนี้ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า
ราคาสินค้าทั้งหมด
฿ {{price_format(total_price)}}
- ฿ {{price_format(discount.price)}}
ราคาสินค้าทั้งหมด
{{total_quantity}} ชิ้น
฿ {{price_format(after_product_price)}}
ราคาไม่รวมค่าจัดส่ง
➜ เลือกซื้อสินค้าเพิ่ม