[Basic Electronics] ว่าด้วย 555 ไอซีพื้นฐานสารพัดประโยชน์
2 ปีที่ผ่านมา
Publish : 13 JANUARY 2023
ไอซี 556
ไอซีเบอร์ 556 คือไอซี 555 สองตัวจับยัดลงไปในตัวถังเดียว การใช้งานทุกอย่างจะเหมือนไอซี 555 เลยครับ โดยไอซี 556 นี้จะมีขาใช้งานสองชุด คือขาใช้งานของชุดที่หนึ่ง 6 ขา และขาใช้งานของชุดที่สองอีก 6 ขา โดยทั้งสองชุดนี้จะแยกกันอยู่สองฝั่ง และใช้ Vcc กับ GND ร่วมกัน ทำให้ไอซี 556 นี้มีขาใช้งาน 14 ขานั่นเอง
ไอซี 558
ถ้าไอซี 556 เป็นการจับไอซี 555 สองตัวลงในตัวถังเดียว ยังมีสุดกว่านั้นครับ มันคือไอซี 558 ซึ่งเป็นการจับไอซี 556 ยัดลงตัวถังเดียว นั่นหมายความว่าในไอซี 558 นี้มีไอซี 555 อยู่ถึง 4 ตัว อาจงงว่ามันทำได้หรอ ทำได้ครับเพราะจริง ๆ แล้วตัว Silicon Die ของไอซี 555 จริง ๆ มันจิ๋วเดียว แต่ด้วยมาตรฐานขนาดของตัวถังและระยะขา ทำให้ตัวถังมันใหญ่แบบที่เราเห็นกันนั่นเอง
แต่ในไอซี 558 นี้มีขาใช้งาน 4 ชุดก็จริง แต่ในแต่ละชุดนั้นจะมีแค่ 3 ขา รวมเป็น 12 และใช้ขา RESET กับ CONT ร่วมกันทั้ง 4 ชุด และแน่นอน Vcc กับ GND ร่วมกัน ทำให้ 558 มีขาให้ใช้งานทั้งหมด 16 ขา
ประโยชน์ของไอซี 555
อย่างที่กล่าวไปว่าไอซี 555 นั้นได้รับความนิยมอย่างสูง แม้ว่าจะมีอายุกว่า 50 ปีแล้วก็ตาม เนื่องจากมีสเถียรภาพสูง ราคาถูกเพียงตัวละไม่กี่บาทเท่านั้น การออกแบบวงจรง่ายไม่ซับซ้อน ใช้อุปกรณ์อื่น ๆ มาประกอบไม่เกิน 5 ตัว ขับ Output ได้สูงถึง 200 mA (Sink or Source) และรองรับแรงดันการทำงานกว้าง และมี Application Note หลากหลาย คือ Missing-Pulse Detector, การสร้างสัญญาณ PWM, Sequential Timer ทำให้ถูกนำไปใช้ประโยชน์หลายอย่าง เช่น การสร้างไฟกระพริบ, เครื่องให้จังหวะดนตรี, เสียงสัญญาณเตือนภัย เป็นต้น
สำหรับวันนี้คงพูดถึงแค่เบื้องต้นคร่าว ๆ ด้วยเป็นเนื้อหา Tutorial วันหลังอาจนำมาทำอะไรบางอย่างใน Project ก็เป็นได้ หรือใครต้องการเรียนเพิ่มเติม ทางเราก็มีการสอนอิเล็กทรอนิกส์พื้นฐานเช่นกันครับ ติดต่อได้เลย (แอบโฆษณา) ก็คงต้องจบก่อนสำหรับ Tutorial แรกของปี 2023 นี้ ต้องขอลาไปก่อนครับ สวัสดี
Footnote
* Hans R. Camenzind (1 มกราคม ค.ศ.1934 - 8 สิงหาคม ค.ศ.2012) วิศวกรชาวสวิตเซอร์แลนด์ ที่มีผลงานเด่นคือเป็นผู้คิดค้นไอซีเบอร์ 555 ซึ่งนอกจากนี้แล้วเขายังถือสิทธิบัตรสิ่งประดิษฐ์อีกถึง 20 ฉบับ นอกจากนี้ยังมีผลงานเขียนหนังสือถึง 3 เล่ม ได้แก่ Designing Analog Chips และในนามปากกา John Penter เขาได้เขียนหนังสือ Circumstantial Evidence ซึ่งเป็นหนังสือเกี่ยวกับศาสนา และผลงานหนังสือเล่มสุดท้ายคือ Much Ado About Almost Nothing เป็นหนังสือประวัติเรื่องอิเล็กทรอนิกส์ ถูกตีพิมพ์ในปี 2007
** Signetics Corporation ก่อตั้งในปี 1961 เป็นบริษัทผลิตไอซีที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง โดยผลงานเด่นคือไอซี 555 นอกจากนี้ยังผลิต 8-bit Microcontroller และชิป FPGA อีกหลายตัว ก่อนที่จะถูกซื้อกิจการโดย Phillips ในปี 1975 และนำไปรวมกับบริษัท Phillips Semiconductors (และเปลี่ยนเป็น NXP ในปี 2006)
เนื้อหาในบทความนี้
- ทำความรู้จักกับไอซีเบอร์ 555
- การใช้งานไอซี 555
- ขาใช้งาน
- Monostable Multivibator
- Astable Multivibator
- Bistable Multivibator
- ไอซี 556
- ไอซี 558
- ประโยชน์ของไอซี 555
- Footnote
เมื่อครั้งเริ่มเรียนอิเล็กทรอนิกส์ เชื่อว่าหลังจากทุกคนได้เรียนพื้นฐาน R C L กันแล้ว ไอซีตัวแรกที่จะได้ทำความรู้จักก็มักจะเป็นไอซีเบอร์ 555 ซึ่งในตอนนั้นก็รู้สึกว๊าวกับสิ่งที่มันทำ ตัวมันเป็นไอซีที่สามารถทำได้สารพัดประโยชน์ ในการทดลองตอนเรียนอาจเห็นแค่การเปิดปิดไฟกระพริบเหมือนเขียนโปรแกรมแรกใน Arduino แต่จริง ๆ แล้วการเปิดปิดไฟกระพริบเนี่ยแหละมันมีประโยชน์ในวงจรอิเล็กทรอนิกส์มากมาย สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่ามันดียังไง วันนี้เราจะไปทำความรู้จักกับมันกันครับ
ทำความรู้จักกับไอซีเบอร์ 555
ไอซีเบอร์ 555 เป็นวงจรรวม (IC : Integrated Circuit) ในกลุ่ม Timer ถูกออกแบบและประดิษฐ์โดย ฮันส์ อาร์ คาเมนซินด์ (Hans R. Camenzind) * ในปี ค.ศ.1970 และถูกผลิตโดย Signetics Corporation ** โดยให้ชื่อเรียกว่า "The IC Time Machine" กำหนดเบอร์ไอซีเป็น NE555 และ SE555 และถูกนำไปใช้งานอย่างกว้างขวางเพราะมีสเถียรภาพสูง ใช้งานง่าย และราคาถูก และในปัจจุบันนี้ก็ยังได้รับความนิยมและถูกผลิตออกมาจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง โดย Samsung Electronics เพียงเจ้าเดียวสามารถผลิตได้ถึงปีละ 1,000 ล้านตัว
ภายในไอซี 555 ประกอบด้วยทรานซิสเตอร์ 23 ตัว ไดโอด 2 ตัว และตัวต้านทาน 16 ตัว มีบล็อกไดอแกรมและวงจรตามภาพด้านบนที่แสดงไว้ มีขาใช้งาน 8 ขา ซึ่งก็มีการพัฒนาต่อยอดใช้ไอซี 555 สองตัวต่อกันบนชิปตัวเดียวกลายเป็นไอซีเบอร์ 556 และใช้ไอซี 555 สี่ตัวต่อกันบนชิปเดียวกลายเป็นไอซี 558
การใช้งานไอซี 555
ไอซี 555 สามารถใช้งานได้ง่าย ใช้ตัวเก็บประจุและตัวต้านทานเพียงไม่กี่ตัว โดยการกำหนดและเปลี่ยนแปลงค่าต่าง ๆ สามารถทำได้โดยการเปลี่ยนค่าของตัวเก็บประจุและค่าของตัวต้านทานนี้ โดยการทำงานมี 3 โหมด คือ Monostable, Astable และ Bistable
ขาใช้งาน
ไอซี 555 มีขาให้ใช้งาน 8 ขา ดังนี้
ดูขาบางขาอาจงง ๆ เพราะบางอย่างก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงเหมือนกัน ไปดูการออกแบบเพื่อใช้งานกันเลยดีกว่าครับ (อาจต้องดูวงจรภายในประกอบเพื่อความเข้าใจ)
Monostable Multivibator
โหมดนี้ ไอซี 555 จะสร้าง Pulse สัญญาณเพียงครั้งเดียวเมื่อถูกกระตุ้น (Trigger)
เมื่อไม่มีสัญญาณกระตุ้น Vtrig จะเท่ากับ Vcc แรงดันที่ตกคร่อมตัวเก็บประจุจะเป็น 0 เนื่องจาก Vcc สามารถผ่าน RA ไปผ่านทรานซิสเตอร์ภายในและลงกราวด์ ทำให้ Output มี Logic "0"
เมื่อมีสัญญาณ Trigger เข้ามากระตุ้น Vtrig = 0 วงจรจะ Off ทำให้ Vcc ไปชาร์จตัวเก็บประจุ จนกว่าแรงดันที่ตกคร่อมตัวเก็บประจุจะมีค่า 2/3 Vcc ก็จะคายประจุผ่านทรานซิสเตอร์ภายใน ระหว่างที่มีการคายประจุนี้ Output จะมี Logic "1" โดย Vo = Vcc
เราสามารถกำหนดความกว้างของ Pulse ได้จากสมการ
Astable Multivibator
ในโหมดนี้ ไอซี 555 จะสร้างสัญญาณ Square Wave ตามความถี่ที่ออกแบบไว้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังสามารถกำหนดความกว้างของ Pulse ได้อีกด้วย
ในโหมดนี้พูดกันง่าย ๆ ก็คือนำการทำงานแบบ Monostable Multivibator มาให้มันทำงานโดยอัตโนมัติ ซึ่งแบบ Mono นั้นตัวเก็บประจุจะชาร์จและคายจากสัญญาณ Trigger ที่เราใส่เข้าไป แต่แบบ Astable Multivibator นี้ ตัวเก็บประจุจะชาร์จและคายสลับกันไปตลอดเวลาซึ่งเป็นผลมาจาก RA และ RB
เมื่อตัวเก็บประจุว่าง จะชาร์จโดยความต้านทานของ RA และ RB เมื่อแรงดันถึงช่วงที่กำหนดก็จะคายประจุโดยใช้ RB และทรานซิสเตอร์ภายในวงจร ทำให้เกิด Square Wave ต่อเนื่องตลอดเวลา
เราสามารถกำหนดความกว้างของ Pulse แต่ละลูกได้จากสมการ
และความถี่ของ Pulse สามารถกำหนดได้จากสมการ
Bistable Multivibator
สำหรับโหมดนี้ ไอซี 555 สามารถทำงานเป็น Flip-Flop ได้ แต่ไม่ได้รับความนิยมเนื่องจากมีไอซี Flip-Flop ที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะ
วงจร Bistable Multivibator สามารถที่จะเปลี่ยนสถานะจาก High ไปเป็นสถานะ Low ได้และจะยังคงอยู่ที่สถานะนั้นตลอดจนกว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงสัญญาณที่เข้ามา Trigger ค่าความกว้างของ Pulse ที่ถูกสร้างขึ้นจะถูกควบคุมโดย Trigger Switch
- การใช้งานไอซี 555
- ขาใช้งาน
- Monostable Multivibator
- Astable Multivibator
- Bistable Multivibator
- ไอซี 556
- ไอซี 558
- ประโยชน์ของไอซี 555
- Footnote
เมื่อครั้งเริ่มเรียนอิเล็กทรอนิกส์ เชื่อว่าหลังจากทุกคนได้เรียนพื้นฐาน R C L กันแล้ว ไอซีตัวแรกที่จะได้ทำความรู้จักก็มักจะเป็นไอซีเบอร์ 555 ซึ่งในตอนนั้นก็รู้สึกว๊าวกับสิ่งที่มันทำ ตัวมันเป็นไอซีที่สามารถทำได้สารพัดประโยชน์ ในการทดลองตอนเรียนอาจเห็นแค่การเปิดปิดไฟกระพริบเหมือนเขียนโปรแกรมแรกใน Arduino แต่จริง ๆ แล้วการเปิดปิดไฟกระพริบเนี่ยแหละมันมีประโยชน์ในวงจรอิเล็กทรอนิกส์มากมาย สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่ามันดียังไง วันนี้เราจะไปทำความรู้จักกับมันกันครับ
ทำความรู้จักกับไอซีเบอร์ 555
ไอซีเบอร์ 555 เป็นวงจรรวม (IC : Integrated Circuit) ในกลุ่ม Timer ถูกออกแบบและประดิษฐ์โดย ฮันส์ อาร์ คาเมนซินด์ (Hans R. Camenzind) * ในปี ค.ศ.1970 และถูกผลิตโดย Signetics Corporation ** โดยให้ชื่อเรียกว่า "The IC Time Machine" กำหนดเบอร์ไอซีเป็น NE555 และ SE555 และถูกนำไปใช้งานอย่างกว้างขวางเพราะมีสเถียรภาพสูง ใช้งานง่าย และราคาถูก และในปัจจุบันนี้ก็ยังได้รับความนิยมและถูกผลิตออกมาจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง โดย Samsung Electronics เพียงเจ้าเดียวสามารถผลิตได้ถึงปีละ 1,000 ล้านตัว
ภายในไอซี 555 ประกอบด้วยทรานซิสเตอร์ 23 ตัว ไดโอด 2 ตัว และตัวต้านทาน 16 ตัว มีบล็อกไดอแกรมและวงจรตามภาพด้านบนที่แสดงไว้ มีขาใช้งาน 8 ขา ซึ่งก็มีการพัฒนาต่อยอดใช้ไอซี 555 สองตัวต่อกันบนชิปตัวเดียวกลายเป็นไอซีเบอร์ 556 และใช้ไอซี 555 สี่ตัวต่อกันบนชิปเดียวกลายเป็นไอซี 558การใช้งานไอซี 555
ไอซี 555 สามารถใช้งานได้ง่าย ใช้ตัวเก็บประจุและตัวต้านทานเพียงไม่กี่ตัว โดยการกำหนดและเปลี่ยนแปลงค่าต่าง ๆ สามารถทำได้โดยการเปลี่ยนค่าของตัวเก็บประจุและค่าของตัวต้านทานนี้ โดยการทำงานมี 3 โหมด คือ Monostable, Astable และ Bistable
ขาใช้งาน
ไอซี 555 มีขาให้ใช้งาน 8 ขา ดังนี้
| ขาที่ | ชื่อ | การทำงาน |
| 1 | GND | กราวด์ |
| 2 | TRIG | Trigger ขาสำหรับกระตุ้นการทำงาน |
| 3 | Q | Output สัญญาณขาออกจากที่สร้างมา (แรงดัน=VCC) |
| 4 | RESET | ขารีเซ็ต (Active Low) |
| 5 | CV | Control Voltage จ่ายไฟเพื่อหยุดวงจร(ไม่นิยมทำ) แต่ตามปกติจะต่อตัวต้านทานแล้วลงกราวด์ |
| 6 | THR | Thershold |
| 7 | DIS | Discharge ต่อตัวเก็บประจุ เพื่อใช้การคายประจุเป็นตัวกำหนดความถี่ของ Output |
| 8 | VCC | ไฟเลี้ยง (4.5 - 15 V) |
ดูขาบางขาอาจงง ๆ เพราะบางอย่างก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงเหมือนกัน ไปดูการออกแบบเพื่อใช้งานกันเลยดีกว่าครับ (อาจต้องดูวงจรภายในประกอบเพื่อความเข้าใจ)
Monostable Multivibator
โหมดนี้ ไอซี 555 จะสร้าง Pulse สัญญาณเพียงครั้งเดียวเมื่อถูกกระตุ้น (Trigger)
เมื่อไม่มีสัญญาณกระตุ้น Vtrig จะเท่ากับ Vcc แรงดันที่ตกคร่อมตัวเก็บประจุจะเป็น 0 เนื่องจาก Vcc สามารถผ่าน RA ไปผ่านทรานซิสเตอร์ภายในและลงกราวด์ ทำให้ Output มี Logic "0"
เมื่อมีสัญญาณ Trigger เข้ามากระตุ้น Vtrig = 0 วงจรจะ Off ทำให้ Vcc ไปชาร์จตัวเก็บประจุ จนกว่าแรงดันที่ตกคร่อมตัวเก็บประจุจะมีค่า 2/3 Vcc ก็จะคายประจุผ่านทรานซิสเตอร์ภายใน ระหว่างที่มีการคายประจุนี้ Output จะมี Logic "1" โดย Vo = Vcc
เราสามารถกำหนดความกว้างของ Pulse ได้จากสมการ
Astable Multivibator
ในโหมดนี้ ไอซี 555 จะสร้างสัญญาณ Square Wave ตามความถี่ที่ออกแบบไว้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังสามารถกำหนดความกว้างของ Pulse ได้อีกด้วย
ในโหมดนี้พูดกันง่าย ๆ ก็คือนำการทำงานแบบ Monostable Multivibator มาให้มันทำงานโดยอัตโนมัติ ซึ่งแบบ Mono นั้นตัวเก็บประจุจะชาร์จและคายจากสัญญาณ Trigger ที่เราใส่เข้าไป แต่แบบ Astable Multivibator นี้ ตัวเก็บประจุจะชาร์จและคายสลับกันไปตลอดเวลาซึ่งเป็นผลมาจาก RA และ RB
เมื่อตัวเก็บประจุว่าง จะชาร์จโดยความต้านทานของ RA และ RB เมื่อแรงดันถึงช่วงที่กำหนดก็จะคายประจุโดยใช้ RB และทรานซิสเตอร์ภายในวงจร ทำให้เกิด Square Wave ต่อเนื่องตลอดเวลา
เราสามารถกำหนดความกว้างของ Pulse แต่ละลูกได้จากสมการ
และความถี่ของ Pulse สามารถกำหนดได้จากสมการ
Bistable Multivibator
สำหรับโหมดนี้ ไอซี 555 สามารถทำงานเป็น Flip-Flop ได้ แต่ไม่ได้รับความนิยมเนื่องจากมีไอซี Flip-Flop ที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะ
วงจร Bistable Multivibator สามารถที่จะเปลี่ยนสถานะจาก High ไปเป็นสถานะ Low ได้และจะยังคงอยู่ที่สถานะนั้นตลอดจนกว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงสัญญาณที่เข้ามา Trigger ค่าความกว้างของ Pulse ที่ถูกสร้างขึ้นจะถูกควบคุมโดย Trigger Switch
ไอซี 556
ไอซีเบอร์ 556 คือไอซี 555 สองตัวจับยัดลงไปในตัวถังเดียว การใช้งานทุกอย่างจะเหมือนไอซี 555 เลยครับ โดยไอซี 556 นี้จะมีขาใช้งานสองชุด คือขาใช้งานของชุดที่หนึ่ง 6 ขา และขาใช้งานของชุดที่สองอีก 6 ขา โดยทั้งสองชุดนี้จะแยกกันอยู่สองฝั่ง และใช้ Vcc กับ GND ร่วมกัน ทำให้ไอซี 556 นี้มีขาใช้งาน 14 ขานั่นเอง
ไอซี 558
ถ้าไอซี 556 เป็นการจับไอซี 555 สองตัวลงในตัวถังเดียว ยังมีสุดกว่านั้นครับ มันคือไอซี 558 ซึ่งเป็นการจับไอซี 556 ยัดลงตัวถังเดียว นั่นหมายความว่าในไอซี 558 นี้มีไอซี 555 อยู่ถึง 4 ตัว อาจงงว่ามันทำได้หรอ ทำได้ครับเพราะจริง ๆ แล้วตัว Silicon Die ของไอซี 555 จริง ๆ มันจิ๋วเดียว แต่ด้วยมาตรฐานขนาดของตัวถังและระยะขา ทำให้ตัวถังมันใหญ่แบบที่เราเห็นกันนั่นเอง
แต่ในไอซี 558 นี้มีขาใช้งาน 4 ชุดก็จริง แต่ในแต่ละชุดนั้นจะมีแค่ 3 ขา รวมเป็น 12 และใช้ขา RESET กับ CONT ร่วมกันทั้ง 4 ชุด และแน่นอน Vcc กับ GND ร่วมกัน ทำให้ 558 มีขาให้ใช้งานทั้งหมด 16 ขา
ประโยชน์ของไอซี 555
อย่างที่กล่าวไปว่าไอซี 555 นั้นได้รับความนิยมอย่างสูง แม้ว่าจะมีอายุกว่า 50 ปีแล้วก็ตาม เนื่องจากมีสเถียรภาพสูง ราคาถูกเพียงตัวละไม่กี่บาทเท่านั้น การออกแบบวงจรง่ายไม่ซับซ้อน ใช้อุปกรณ์อื่น ๆ มาประกอบไม่เกิน 5 ตัว ขับ Output ได้สูงถึง 200 mA (Sink or Source) และรองรับแรงดันการทำงานกว้าง และมี Application Note หลากหลาย คือ Missing-Pulse Detector, การสร้างสัญญาณ PWM, Sequential Timer ทำให้ถูกนำไปใช้ประโยชน์หลายอย่าง เช่น การสร้างไฟกระพริบ, เครื่องให้จังหวะดนตรี, เสียงสัญญาณเตือนภัย เป็นต้น
สำหรับวันนี้คงพูดถึงแค่เบื้องต้นคร่าว ๆ ด้วยเป็นเนื้อหา Tutorial วันหลังอาจนำมาทำอะไรบางอย่างใน Project ก็เป็นได้ หรือใครต้องการเรียนเพิ่มเติม ทางเราก็มีการสอนอิเล็กทรอนิกส์พื้นฐานเช่นกันครับ ติดต่อได้เลย (แอบโฆษณา) ก็คงต้องจบก่อนสำหรับ Tutorial แรกของปี 2023 นี้ ต้องขอลาไปก่อนครับ สวัสดี
Footnote
* Hans R. Camenzind (1 มกราคม ค.ศ.1934 - 8 สิงหาคม ค.ศ.2012) วิศวกรชาวสวิตเซอร์แลนด์ ที่มีผลงานเด่นคือเป็นผู้คิดค้นไอซีเบอร์ 555 ซึ่งนอกจากนี้แล้วเขายังถือสิทธิบัตรสิ่งประดิษฐ์อีกถึง 20 ฉบับ นอกจากนี้ยังมีผลงานเขียนหนังสือถึง 3 เล่ม ได้แก่ Designing Analog Chips และในนามปากกา John Penter เขาได้เขียนหนังสือ Circumstantial Evidence ซึ่งเป็นหนังสือเกี่ยวกับศาสนา และผลงานหนังสือเล่มสุดท้ายคือ Much Ado About Almost Nothing เป็นหนังสือประวัติเรื่องอิเล็กทรอนิกส์ ถูกตีพิมพ์ในปี 2007
** Signetics Corporation ก่อตั้งในปี 1961 เป็นบริษัทผลิตไอซีที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง โดยผลงานเด่นคือไอซี 555 นอกจากนี้ยังผลิต 8-bit Microcontroller และชิป FPGA อีกหลายตัว ก่อนที่จะถูกซื้อกิจการโดย Phillips ในปี 1975 และนำไปรวมกับบริษัท Phillips Semiconductors (และเปลี่ยนเป็น NXP ในปี 2006)
หากเห็นว่าบทความมีประโยชน์ต้องการสนับสนุนเป็นกำลังใจ เพียงแค่สนับสนุนค่ากาแฟให้เรานั่งเขียนบทความตามลิงค์ด้านล่าง
▲
▼
รายการสั่งซื้อของฉัน
รายการสั่งซื้อของฉัน
ข้อมูลร้านค้านี้
Fitrox Electronics
ไฟทร็อก อิเล็กทรอนิกส์ จำหน่ายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ บอร์ดไมโครคอนโทรลเลอร์ และอุปกรณ์สำหรับโปรเจคต่างๆ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ (หลัง มช.)
เบอร์โทร : 0897245633
อีเมล : fitrox.electronics@gmail.com
อีเมล : fitrox.electronics@gmail.com
ส่งข้อความติดต่อร้าน
เกี่ยวกับร้านค้านี้
ค้นหาสินค้าในร้านนี้
ค้นหาสินค้า
สินค้าที่ดูล่าสุด
บันทึกเป็นร้านโปรด
Join เป็นสมาชิกร้าน
แชร์หน้านี้
แชร์หน้านี้
↑
TOP เลื่อนขึ้นบนสุด
TOP เลื่อนขึ้นบนสุด
สินค้าในตะกร้า ({{total_num}} รายการ)
ขออภัย ขณะนี้ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า
ราคาสินค้าทั้งหมด
฿ {{price_format(total_price)}}
- ฿ {{price_format(discount.price)}}
ราคาสินค้าทั้งหมด
{{total_quantity}} ชิ้น
฿ {{price_format(after_product_price)}}
ราคาไม่รวมค่าจัดส่ง
➜ เลือกซื้อสินค้าเพิ่ม